การดูแลรักษาไม้ดอก
หลังจากทำการปลูกไม้ดอกประดับลงในแปลงใหม่
ๆ ควรทำร่มบังแดดให้กับต้นกล้าที่ปลูกประมาณ 7 - 10 วัน เพื่อช่วยให้ต้นกล้านั้นตั้งตัวได้เร็วขึ้น
สำหรับการดูแลรักษาที่ควรปฏิบัติ คือ
1. การให้น้ำ เมื่อทำการปลูกใหม่ ๆ ควรรดน้ำให้วันละ 2 ครั้ง คือในตอนเช้าและตอนเย็น หรือตาม ความต้องการของพันธุ์ไม้ที่ปลูก เช่น บางวันลมแรง แดดจัด อากาศร้อน การคายน้ำย่อมมีมากอาจต้องมีการให้น้ำเพิ่มขึ้น สภาพของดินก็มีส่วนสำคัญต่อการให้น้ำ ดินบางชนิดอาจต้องรดน้ำบ่อย ๆ เนื่องจากดินไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ ดังนั้นผู้ปลูกจึงต้องเรียนรู้ถึงความ ต้องการน้ำของพืชที่ปลูกด้วยตัวเองในระยะแรกของการปลูกซึ่งจะทำให้ทราบว่าจะต้องให้น้ำวันละกี่ครั้ง หรือ กี่วันครั้ง
2. การพรวนดิน เพื่อกำจัดวัชพืชควรทำทุก 10 วัน ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น แปลงขนาด 4 X 4 เมตร อาจใช้เสียมมือ หรือ ส้อมพรวน ค่อย ๆ พรวนดินระหว่างแถวที่ปลูกพืช แต่ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ก็ควรใช้จอบพรวน การพรวนดินบริเวณที่มีรากฝอยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างรากฝอยมากขึ้น แต่ต้องระวังอย่าไปตัดรากพืชโดยเฉพาะรากแก้ว เพราะจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตได้
3. การให้ปุ๋ย ถึงแม้ว่าเวลาเตรียมดินจะมีการใส่ปุ๋ยลงในแปลงแล้วก็ตามแต่ก็ควรให้ปุ๋ยที่เป็นธาตุอาหารแก่พืชเพิ่ยง เร่งในส่วนที่เราต้องการ เช่น ปุ๋ยยูเรีย เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
1. การให้น้ำ เมื่อทำการปลูกใหม่ ๆ ควรรดน้ำให้วันละ 2 ครั้ง คือในตอนเช้าและตอนเย็น หรือตาม ความต้องการของพันธุ์ไม้ที่ปลูก เช่น บางวันลมแรง แดดจัด อากาศร้อน การคายน้ำย่อมมีมากอาจต้องมีการให้น้ำเพิ่มขึ้น สภาพของดินก็มีส่วนสำคัญต่อการให้น้ำ ดินบางชนิดอาจต้องรดน้ำบ่อย ๆ เนื่องจากดินไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ ดังนั้นผู้ปลูกจึงต้องเรียนรู้ถึงความ ต้องการน้ำของพืชที่ปลูกด้วยตัวเองในระยะแรกของการปลูกซึ่งจะทำให้ทราบว่าจะต้องให้น้ำวันละกี่ครั้ง หรือ กี่วันครั้ง
2. การพรวนดิน เพื่อกำจัดวัชพืชควรทำทุก 10 วัน ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น แปลงขนาด 4 X 4 เมตร อาจใช้เสียมมือ หรือ ส้อมพรวน ค่อย ๆ พรวนดินระหว่างแถวที่ปลูกพืช แต่ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ก็ควรใช้จอบพรวน การพรวนดินบริเวณที่มีรากฝอยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างรากฝอยมากขึ้น แต่ต้องระวังอย่าไปตัดรากพืชโดยเฉพาะรากแก้ว เพราะจะทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตได้
3. การให้ปุ๋ย ถึงแม้ว่าเวลาเตรียมดินจะมีการใส่ปุ๋ยลงในแปลงแล้วก็ตามแต่ก็ควรให้ปุ๋ยที่เป็นธาตุอาหารแก่พืชเพิ่ยง เร่งในส่วนที่เราต้องการ เช่น ปุ๋ยยูเรีย เพื่อเร่งการเจริญเติบโต
การดูแลรักษา ไม้ประดับ
-แสง ต้องการแสงแดดรำไร
หรือปานกลาง
-น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน / ครั้ง
-ดิน ดินผสมพิเศษ กาบมะพร้าว
-ปุ๋ย ปุ๋ยอินทรีย์ผสมพิเศษ หรือปุ๋ยเคมี สูตร 10-10-10 5-10-5 อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
ละลายน้ำฉีดพ่นตาม ใบ ควรให้ 1 - 2 เดือน / ครั้ง
-น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน / ครั้ง
-ดิน ดินผสมพิเศษ กาบมะพร้าว
-ปุ๋ย ปุ๋ยอินทรีย์ผสมพิเศษ หรือปุ๋ยเคมี สูตร 10-10-10 5-10-5 อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
ละลายน้ำฉีดพ่นตาม ใบ ควรให้ 1 - 2 เดือน / ครั้ง
♫
โรค โรคเน่าดำ (Black not disease)
อาการ ใบและลำต้นมีรอยเป็นสีดำ ต่อมาทำให้ใบเหี่ยวหลุดร่วง
การป้องกัน
- อย่าให้น้ำแฉะเกินไป
- รักษาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือปลูก
การรักษา ตัดหรือทำลายส่วนที่เป็นโรคทิ้ง หรือใช้ 8 ไฮดร๊อคซี่ควิโนลิ่น ซัลเฟต อัตราส่วนและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
♫ โรคเหี่ยว Fusarium wilt
อาการ ใบและลำต้น มีสีเหลืองซีด แห้ง บิดงอ
การป้องกัน
- อย่าให้น้ำแฉะหรือมากเกินไป
- รักษาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องปลูก
การรักษา นำต้นที่เป็นโรคเผาทำลาย ศัตรู เพลี้ยไฟ
♫อาการ กลีบดอกแห้งและร่วง
การป้องกัน
ใช้ยาคลอเดน 75% อัตราและคำแนะนำการใช้ระบุไว้ตามฉลากฉีดพ่น บริเวณใบและ ดอกขณะดอกยังตูม
การกำจัด ใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40% อัตราและคำแนะนำการใช้ระบุไว้ตามฉลาก
การดูแลไม้ผลในสวน ที่สวนมีพื้นที่ขณะนี้เพียง 8ไร่ โดยประกอบด้วยมังคุด ลางสาด(ฃึ่งกำลังวางแผนจะเอาออกทั้งหมด) ลองกองปลูกใหม่ และมะนาวปลูกใหม่
โดยการจัดการหลักๆ แบ่งเป็นการกำจัดวัชพืช - การใส่ปุ๋ย - การเก็บเกี่ยว - การตัดแต่ง ขอพูดถึงหลักใหญ่ๆดังนี้ เนื่องจากเวลาในแต่ละวันหมดไปกับงานประจำ เลยมีเวลากับงานเกษตรเพียงเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดตามใจฉัน + วันลา + วันหยุดประเพณี เพียงเท่านี้ก็สามารถดูแลสวนเล็กๆที่ทำอยู่ได้
อาการ ใบและลำต้นมีรอยเป็นสีดำ ต่อมาทำให้ใบเหี่ยวหลุดร่วง
การป้องกัน
- อย่าให้น้ำแฉะเกินไป
- รักษาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือปลูก
การรักษา ตัดหรือทำลายส่วนที่เป็นโรคทิ้ง หรือใช้ 8 ไฮดร๊อคซี่ควิโนลิ่น ซัลเฟต อัตราส่วนและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
♫ โรคเหี่ยว Fusarium wilt
อาการ ใบและลำต้น มีสีเหลืองซีด แห้ง บิดงอ
การป้องกัน
- อย่าให้น้ำแฉะหรือมากเกินไป
- รักษาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องปลูก
การรักษา นำต้นที่เป็นโรคเผาทำลาย ศัตรู เพลี้ยไฟ
♫อาการ กลีบดอกแห้งและร่วง
การป้องกัน
ใช้ยาคลอเดน 75% อัตราและคำแนะนำการใช้ระบุไว้ตามฉลากฉีดพ่น บริเวณใบและ ดอกขณะดอกยังตูม
การกำจัด ใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40% อัตราและคำแนะนำการใช้ระบุไว้ตามฉลาก
การดูแลไม้ผลในสวน ที่สวนมีพื้นที่ขณะนี้เพียง 8ไร่ โดยประกอบด้วยมังคุด ลางสาด(ฃึ่งกำลังวางแผนจะเอาออกทั้งหมด) ลองกองปลูกใหม่ และมะนาวปลูกใหม่
โดยการจัดการหลักๆ แบ่งเป็นการกำจัดวัชพืช - การใส่ปุ๋ย - การเก็บเกี่ยว - การตัดแต่ง ขอพูดถึงหลักใหญ่ๆดังนี้ เนื่องจากเวลาในแต่ละวันหมดไปกับงานประจำ เลยมีเวลากับงานเกษตรเพียงเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดตามใจฉัน + วันลา + วันหยุดประเพณี เพียงเท่านี้ก็สามารถดูแลสวนเล็กๆที่ทำอยู่ได้
♫การตัดหญ้า
ตัดปีละ 4 ครั้ง คือต้นเดือน มกราคม / พฤษภาคม สิงหาคม และ ปลายเดือนตุลาคม
การใส่ปุ๋ย
ใส่ 3 ช่วงดังนี้ หลังตัดหญ้าเดือนพฤษภาคม ใส่สูตร 8-24-24 / หลังตัดหญ้าเดือนสิงหาคม ใส่สูตร 13-13-21 / และต้นเดือนพฤศจิกายน ใส่สูตร 16-16-16 ครับ
การเก็บเกี่ยว
ตัดปีละ 4 ครั้ง คือต้นเดือน มกราคม / พฤษภาคม สิงหาคม และ ปลายเดือนตุลาคม
การใส่ปุ๋ย
ใส่ 3 ช่วงดังนี้ หลังตัดหญ้าเดือนพฤษภาคม ใส่สูตร 8-24-24 / หลังตัดหญ้าเดือนสิงหาคม ใส่สูตร 13-13-21 / และต้นเดือนพฤศจิกายน ใส่สูตร 16-16-16 ครับ
การเก็บเกี่ยว
ที่มา ►
http://scienceplant.wikispaces.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น